HATTOR AUDIO
Hattor Audio Ultimate Passive Pre- Amplifier & Ultimate Mono Power Amplifier
ลึกซึ้งในเสียงดนตรีที่มีชีวิต
เริ่มต้นปีศักราช 2568 ด้วยแอมปลิไฟร์ที่มีคุณสมบัติแตกต่างจากตลาดไฮเอ็นด์ออดิโอทั่วไปอย่างสิ้นเชิง นั่นทำให้รู้สึกว่า ปีนี้เราจะมีอะไรเพิ่มเติมวิถีทางออดิโอไฟล์ให้เข้าใกล้ดนตรีมากเป็นพิเศษ
บริษัท Hattor Audio มีสำนักออกแบบในประเทศสเปน และโรงงานผลิตอยู่ในโปแลนด์ ย่อมทำให้ผมแปลกใจยิ่งขึ้นว่า สาธารณรัฐโปแลนด์มีผลิตภัณฑ์ที่เราน่าจะคุ้นเคยต่อไปในอนาคตอีกหลายแบรนด์หรือไม่อย่างไร
การออกแบบที่สวยงามเกินบรรยาย หน้าดิสเพลย์พื้นไม้ธรรมชาติที่คัดเฉพาะ ทำให้ Hattor Audio นี้ ดูมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ มีขนาดเครื่องเท่ากันทั้งแพสสีพปรีแอมป์ และเพาเวอร์แอมป์ คลาส D โมโนบล็อก คือ กว้าง x ลึก x สูง : 27 x 25 x 9 เซนติเมตร
ปรัชญาและหลักการออกแบบของ Hattor Audio นั้นเน้นไปที่
• อุปกรณ์ชิ้นส่วนระดับ High Performance เพื่อให้มีค่าเบี่ยงเบนน้อยที่สุดตั้งแต่เริ่มต้น
• ระบบ Fully Balanced ส่งผลให้เสียงสะอาดและมีไดนามิกมากขึ้นแยกช่องสัญญาณได้ดีขึ้น และมีเวทีเสียงที่ดีขึ้น
• เส้นทางสัญญาณในวงจรลัด สั้นที่สุด ช่วยให้เสียงมีความแม่นยำยิ่งขึ้น โดยยังคงรักษาคุณลักษณะดั้งเดิมของดนตรีจากอินพุตเอาไว้ให้สมบูรณ์
• มีการตั้งค่าเกน อินพุต/เอาต์พุต และการควบคุมระดับเสียงที่แตกต่างกัน ด้วยรายละเอียดแต่ละสเตปอย่างแม่นยำ
• การออกแบบและวิศวกรรมมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่วงจรไปจนถึงวัสดุของโครงสร้างเครื่อง ทุกอย่างล้วนได้รับการพิจารณาเพื่อลดการสั่นพ้องและการสั่นสะเทือน
• ในปรีแอมป์ของ Hattor เน้นโครงสร้างเกนขยายที่เหมาะสม ให้ช่วงไดนามิกที่กว้างและพื้นเสียงรบกวนต่ำ สามารถรับมือกับระดับสัญญาณที่แตกต่างกันได้โดยไม่ทำให้เกิดการบิดเบือน
• องค์ประกอบของปรีแอมป์ และเพาเวอร์แอมป์ ออกแบบให้ลดการสั่นสะเทือน และสามารถป้องกันสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้าได้ในตัวเอง ทำให้ประสิทธิภาพและความบริสุทธิ์ของเสียงดีขึ้น
Hattor Audio Ultimate Passive Pre- Amplifier
เป็นความตั้งใจของผู้ออกแบบ ที่จะนำระบบแพสสีพ ปรีแอมป์ ที่เน้นคุณภาพอุปกรณ์ในวงจรที่ไม่มีไฟเลี้ยง หรือ Passive Pre- Amp ให้ทำงานร่วมกับเพาเวอร์แอมป์โมโนบล็อก Dual mono ระบบวงจรขยาย New Class D
ขออธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับแพสสีพ ปรีแอมป์ สักเล็กน้อย เพราะเป็นปรีที่น่าจะมีโอกาสให้สัญญาณรบกวนเข้าไปยุ่งกับมันน้อยที่สุด เนื่องจากเน้นที่เกรดอุปกรณ์เป็นหลัก ทั้งตัวเก็บประจุ ตัวต้านทาน และขั้วต่อระดับพรีเมียมที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อประสิทธิภาพเสียงแบบบริสุทธิ์นิยม
ปกติปรีแอมป์แบบแพสสีพไม่ต้องการแหล่งจ่ายไฟ แต่จะใช้ส่วนประกอบแบบพาสซีฟ เช่น ตัวต้านทาน ตัวเก็บประจุ และบางครั้งมีหม้อแปลงเพื่อลดทอนหรือขยายสัญญาณกับตัวโวลุ่ม
แต่ Hattor Audio Ultimate Passive Pre- Amplifier ตัวนี้ ไม่มีหม้อแปลงใดๆ เลย ที่เห็นจากตัวจ่ายไฟ ซึ่งแยกออกจากตัวเครื่องนั้น มีไว้สำหรับ รีโมตคอนโทรล, บัฟเฟอร์ของขั้วต่อ RCA และ XLR Balanced ไฟดิสเพลย์หน้าปัด แสดงตัวเลขโวลุ่ม และแหล่งอินพุต (เลือกปิดได้)
มีช่องต่อ XLR หนึ่งชุด RCA 2 ชุด สำหรับเชื่อมต่อเอาต์พุตสู่เพาเวอร์แอมป์
ส่วนอินพุตแหล่งสัญญาณขาเข้าแบบ XLR มี 3 ชุด และ อินพุต RCA อีก 2 ชุด ซึ่งผู้ออกแบบแนะนำว่าถ้าทำได้ควรใช้ช่อง XLR เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด
ผมหาข้อมูลของ Hattor Audio ได้ไม่มากนักทางออนไลน์ แต่ในกลุ่มนักเล่นไฮเอ็นด์ ทางเว็บไซต์ ได้มีการกล่าวถึงกันมากพอดู
นักเล่นคนหนึ่งกล่าวว่า Hattor Passive Preamp ที่เขาเป็นเจ้าของอยู่นั้นยอดเยี่ยมมากในความเห็นของเขา โดยเขาเป็นเจ้าของปรีแอมป์ราคาติดเพดานไฮเอ็นด์ ประมาณ 20 ตัว โดยมีอย่างน้อย 2 ตัวที่มีราคาสูงกว่า 10,000 เหรียญ
Hattor Audio Ultimate Mono Power Amplifier
เพาเวอร์แอมป์โมโนบล็อกชุดนี้ เป็นวงจรขยายแบบ New Class D ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก Hattor Audio แสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีคลาส D ก้าวมาไกลสูงสุดถึงจุดอุดมคติแล้วจริงๆ เสียงที่สะอาด รายละเอียดดีเยี่ยม และมีพลังเกินพอสำหรับขับลำโพงทุกคู่
ขออธิบายนิดหนึ่งเกี่ยวกับแอมป์ คลาส D นะครับ หลายคนหรือแม้แต่ผมเอง บางครั้งก็อาจจะเผลอเข้าใจผิดว่า มันคือแอมป์ Digital แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่นะครับ
มันจะคล้ายกับแอมป์ คลาส T ที่คุณบ็อบ คาร์เวอร์ เคยนำเสนอในอดีต คือการทำงานด้วยระบบสวิตชิ่ง (Switching Power Supply) ภาคขยายจะทำงานในลักษณะสวิตช์ ปิด-เปิด ตามความถี่ของสัญญาณ Pulse Width Modulation (PWM)
ตามปกติภาคจ่ายไฟจะทำงานเต็มระบบไม่ว่าจะมีสัญญาณเข้ามาหรือไม่ จะมากหรือน้อย แต่สำหรับคลาส D จะขึ้นกับสัญญาณขยายเบา-แรง ไม่ต้องทำงานแบบเต็มที่ตลอดเวลา เครื่องจะไม่ร้อนเหมือนแอมป์คลาส A คลาส AB ทั้งหลาย
(รายละเอียดแอมป์คลาส D ผมจะหาเวลามาเขียนอีกครั้งนะครับ)
เทคโนโลยีแอมป์คลาส D ผ่านการพัฒนามายาวนาน ทำให้ปัจจุบันเป็นแอมปลิไฟร์ที่ บริษัทเครื่องเสียงไฮเอ็นด์หลายแห่งเลือกใช้งานครับ
Hattor Audio Ultimate Mono Power Amplifier นั้น ใช้เทคโนโลยีขยายเสียง nCore ล่าสุดจาก Hypex ด้วยระบบขยายสัญญาณแบบคลาส D ที่สมบูรณ์แบบ มีความผิดเพี้ยนต่ำ และมีเสถียรภาพในการขับลำโพงได้ทุกประเภท
เมื่อพิเคราะห์จากสเปคฯ นับว่าน่าทึ่งมาก ด้วยกำลังขับ 400 W/8 ohm, 700W/4 ohm, 550W/2 Ohm มีอัตราส่วนสัญญาณ ต่อเสียงรบกวน 125dB และถ้าดูตามสเปคฯ ให้ค่าความเพี้ยนทาง THD และ IMD เพียง 0.001 % ตอบสนองความถี่ได้ 2Hz – 50kHz 0/-3db
ทั้ง 3 เครื่องนี้ คือ แพสสีพปรีแอมป์ และเพาเวอร์แอมป์คลาสD โมโนบล็อก 2 เครื่อง มีขนาดกะทัดรัดอย่างน่าแปลกใจ เลยทีเดียว เมื่อเทียบกับศักยภาพเสียงที่โดดเด่นเหลือเชื่อ
ผลการทดสอบฟัง
เป็นแอมป์ที่ถือว่า สวย รวยเสน่ห์ ตั้งแต่แรกเห็นแล้วละครับ เมื่อได้ฟังจริงบอกได้เลยว่า ทำให้ผมต้องนั่งอึ้งไปหลายนาที!!!
จุดแรกที่น่าสังเกตคือ เป็นชุดแอมปลิไฟร์ที่เสียงสะอาดสุดๆ ตลอดทุกย่านความถี่ หากจะเคยได้ยินเสียงดนตรีที่งดงามสะอาดสุดๆ แบบนี้ เปรียบเทียบได้ว่ามันเสียงสะอาด คล้ายๆกับแอมป์ราคาชุดละห้าแสนถึงหนึ่งล้านกว่าบาทที่ผมเคยฟังครับ
จริงอยู่ว่าหลายองค์ประกอบ อาทิค่าไดนามิค Dynamic การสะวิง แรงพั้นช์จะได้ไม่เท่าแอมป์หลอด ระดับล้านบาท แต่โดยรวมคุณภาพของมันก็หายใจรดต้นคอแอมป์ราคาสุดโต่งได้อย่างน่าแปลกใจ... คือในใจตอนทดสอบคิดว่าถ้าผมมีงบสองแสนบาท ผมต้องเลือก Hattor Audio ชุดนี้แน่นอน
เป็นชุดแอมปลิไฟร์ที่ทำให้ผู้ฟังเข้าถึงต้นฉบับเพลงที่บันทึกมาจากสตูดิโอแบบ “แนบชิดติดความเป็นจริง” ไม่มีอะไรปรุงแต่ง ความสวยงามทั้งตัวเครื่องและคุณภาพเสียง เปิดประสบการณ์ที่ถือว่า ล้ำค่ามาก กับปรีแอมป์แพสสีพที่ไม่มีไฟเลี้ยงวงจร และเพาเวอร์แอมป์ New Class D เซ็ตนี้
Hattor Audio Ultimate Passive Pre- Amplifierและ Ultimate Mono Power Amplifierเป็นชุดเครื่องเสียงที่ทรงเสน่ห์จริงๆ ทำให้ได้คุณภาพอันล้นเหลือ ซึ่งสรุปความโดดเด่นได้ดังนี้
1. มีความ CLEAN หรือความสะอาดของเสียงอย่างมากในทุกๆย่านความถี่
2. รายละเอียดระยิบระยับครบถ้วน
3. พลังเสียงที่มาพร้อมกับความลื่นไหลต่อเนื่องของดนตรี อย่างน่าทึ่ง
4. เสียงมีความสง่างาม ดังดนตรีมีชีวิต ฉ่ำ เนียน ฮาร์โมนิคงดงาม
5. แยกแชนแนลได้แม่นยำ อิมเมจเสียงถือว่า เข้าขั้น “สุดทาง”
6. มีบุคลิก ที่ไม่ใช่บุคลิกของเครื่อง แต่เป็นบุคลิกของเสียงดนตรีแท้ๆ
7. รายละเอียดช่วงดนตรีแผ่วเบา นับว่ามีความครบถ้วนอย่างมาก
8. เป็นชุดปรี เพาเวอร์ ที่เข้าถึงอารมณ์ในการฟังเพลงทั้งดิจิตอลและอนาล็อกอย่างดีและใกล้เคียงกัน
9. ออกแบบได้ลงตัวทั้งศาสตร์และศิลป์ คุณภาพเสียงตรงตามต้นฉบับการบันทึกเสียงจากสตูดิโอ ไร้การปรุงแต่ง และรูปทรงเครื่องสวยงามเป็นพิเศษ
ข้อแนะนำ : ให้เลือกแมตช์กันทั้งชุด ปรี-เพาเวอร์ ของHattor Audio ซีรีย์ Ultimate จะดีที่สุด และควรจับคู่ลำโพงที่มีความสะอาดเสียง จะลงตัวเป็นพิเศษครับ
Hattor Audio Ultimate Passive Pre- Amplifier & Ultimate Mono Power Amplifier ให้ความลึกซึ้ง และลึกล้ำในการฟังดนตรีอย่างน่าประทับใจ ฉลองต้นปี2568 อย่างคุ้มค่ามาก
หมายเหตุ
ราคารวมทั้งชุด 200,000.- บาท (รับประกัน 3 ปี)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 096 978 7424 Msound
line : m_240956